กลุ่มนักศึกษา มช. รวมตัวยื่น 1,700 ชื่อ ถอดถอนอธิการบดี และคณบดีวิจิตรศิลป์ พร้อมยื่นเรื่อง กมธ.ศึกษา-กฎหมาย

1936

กลุ่มนักศึกษา มช. รวมตัวยื่น 1,700 ชื่อ ถอดถอนอธิการบดี และคณบดีวิจิตรศิลป์ พร้อมยื่นเรื่อง กมธ.ศึกษา-กฎหมาย

ช่วงสายวันนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณอาคารยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มนักศึกษา สาขาวิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และตัวแทนจากสโมสรนักศึกษา มช.นำโดย นายนาวินธิติ จารุประทัย พร้อม นายธนาธร วิทยเบญจางค์ รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนางสาวสุภวรา ทองเอก และกลุ่มประมาณ 50 คน เดินทางไปชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือถอดถอน ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดี มช. รองศาสตราจารย์ อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ และคณะผู้บริหาร มช. รวมทั้งผู้บริหารคณะวิจิตรศิลป์ฯ ซึ่งมีการรวบรวมรายชื่อนักศึกษา 1,700 คน แนบมาด้วย โดยมี นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย และนางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมพู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล มาร่วมสังเกตการณ์

โดยก่อนการยื่นหนังสือ กลุ่มนักศึกษาได้ปักธูปบริเวณเสา และมีการจุดเทียนในพาน ก่อนที่จะมารวมตัวกันใช้เทียนเขียนชื่อของอธิการบดี มช.และชื่อของคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ ลงบนพื้น พร้อมประกาศหานายกสภามหาวิทยาลัย คือ นพ.เกษม วัฒนชัย ให้ออกมารับหนังสือข้อเรียกร้อง ขณะเดียวกัน นายนายธนาธร วิทยเบญจางค์ รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ประกาศลาออกจากพรรควันใหม่ ซึ่งเป็นพรรคนักศึกษาที่สังกัดอยู่ พร้อมนำเทียนมาเผาโลโก้สภานักศึกษา มช.ก่อนจะถอดเสื้อกองลงพื้น โดยให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมาแม่จะมีตำแหน่งในสภานักศึกษา แต่เหมือนไม่มีตัวตน แม้ตนเองถูกคดี 112 ถึง 2 คดี สภานักศึกษาก็ไม่ได้แอคติ้ง หรือสนใจที่จะมาร่วมแก้ไขกับตน

blank

โดยหลังจากใช้เวลากล่าวข้อเรียกร้องรวมทั้งติติงการทำงานของผู้บริหารผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ได้มีตัวแทนของมหาวิทยาลัยเดินทางมารับหนังสือ เพื่อนำเสนอต่อนายกสภามหาวิทยาลัยตามข้อเรียกร้อง แต่กลุ่มนักศึกษากลับโห่ใส่เสียงดัง พร้อมยืนยันว่าจะพบให้ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่านายกสภาฯ ติดธุระที่ กทม.เดินทางมารับไม่ได้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปกลุ่มนักศึกษาจึงตัดสินใจเดินทางขึ้นไปยังห้องทำงานชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องของนายกสภามหาวิทยาลัย เพื่อนำหนังสือข้อเรียกร้องไปวางบนโต๊ะทำงาน จากนั้นได้ยื่นหนังสือเรียกร้องกับ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ผ่านไปยัง กมธ.การศึกษาฯ และยื่นต่อ นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมพู ตัวแทนพรรคก้าวไกล ผ่านไปยัง กมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎรด้วย

blank

สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษา ได้แนบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ “ขณะวิจิตรสิ้น” (คณะวิจิตรศิลป์) ประเด็นปัญหาอื่นอันเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ของคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยระบุว่าสืบเนื่องจากกรณีความยืดเยื้อและไม่เป็นธรรมในการอ้างอำนาจการดำเนินการ พิจารณาอนุญาตให้กลุ่มบุคคลผู้ศึกษาในสาขาวิชาสื่อศิลปะ และการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้าจัดแสดงผลงานภายในหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะวิจิตรศิลป์ อันส่งผลให้กลุ่มคนผู้ศึกษา ผู้ปกครอง อาจารย์ และประชาชนผู้ยึดมั่นในสิทธิ เสรีภาพของศิลปะรวมตัวเพื่อทวงถามถึงความคืบหน้า ในกระบวนการดังกล่าว และนำไปสู่การยกระดับการเรียกร้องความเป็นธรรมในทุกรูปแบบ ตั้งแต่การยื่นเอกสารข้อเรียกร้องแก่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย การรวมตัวหน้าห้องประชุมคณะผู้บริหาร การรวมตัวชุมนุมเพื่อรอการตอบรับ การเข้ายึดพื้นที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม เพื่อจัดแสดงผลงาน การจัดการเสวนาเชิงวิชาการ เพื่อสร้างความตระหนักในความสำคัญในเสรีภาพของศิลปะ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่จับตามองโดยสื่อและสังคมเป็นอย่างมากถึงความล้าหลัง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความเป็นธรรม การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยตั้งใจ ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ที่ยังคงไม่มีการตอบคำถามแก่สังคมอย่างเปิดเผยสู่สาธารณะอย่างกระจ่างถึงการพิทักษ์ไว้ ซึ่งเสรีภาพของศิลปะและวิชาการภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยกระทำการเดินวนรอบอาคารภายในมหาวิทยาลัย และหลีกหนีการตอบคำถาม โดยการออกจากห้องประชุมด้วยทางออกหนีไฟ การกลั่นแกล้งผู้เรียกร้องโดยสารพัดวิธี ทั้งการยืดเยื้อกระบวนการดำเนินงานโดยอ้างระบบราชการ ตลอดจนตัดการจ่ายไฟฟ้าในสถานที่ที่มีการเรียกร้อง ทั้งอาคารอธิการบดี และหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความอยุติธรรมร้ายแรง ผ่านการบริหารของอธิการบดีและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตลอดจนคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ และคณะผู้บริหารคณะฯ จึงขอให้ดำเนินการให้เกิดการประกาศแต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาถอดถอนคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีข้างต้นแก่สาธารณะ โดยกรรมการสอบสวนจะต้องได้รับการตรวจสอบ ไม่ให้มีผลประโยชน์ร่วมต่อฝ่ายนักศึกษาและคณะผู้บริหารทั้งหมดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้ นักศึกษาและประชาชนทั่วไปจะต้องได้รับสิทธิ์ในการคัดค้านคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนภายในระยะเวลาที่ถูกกำหนดอย่างเป็นธรรม

blankblankblankblankblankblankblank