หนุ่มช่างตัดผม ไอเดียร์บรรเจิด สวนกระแสโควิด ให้บริการลูกค้าแบบจับเวลา ไม่เกี่ยงทรงยากง่าย เริ่มต้น 15 นาทีแรก 35 บาท ยันตัดตามเวลาจริง ไม่ถ่วงเวลา แล้วแต่ความยากง่ายของทรงผม เผยเป็นร้านแรกที่เริ่มทำตัดผมแบบจับเวลา

วันที่ 12 ส.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่พื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีร้านตัดผมแห่งหนึ่งที่มีไอเดียร์บรรเจิด ตัดผมแบบสวนกระแสยุคโควิด ด้วยวิธีสุดแหวกแนวที่ไม่เหมือนใครในการคิดราคาบริการค่าตัดผมให้กับลูกค้า โดยในการตัดผมแต่ละครั้งทางช่างเจ้าของร้านจะคิดราคาเป็นเวลา หรือการใช้มิเตอร์จับเวลา แทนการตัดแต่ละทรงในราคาที่ตายตัว ซึ่งเป็นอีกวิธีแนวคิดที่ได้รับความสนอกสนใจ โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นทรงผมไหน ซึ่งระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละทรง และต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังช่างเจ้าของร้านตัดผมรายนี้จนทราบว่า ร้านดังกล่าวมีพิกัดตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหลังตลาด ป.พัน 7 (ขาเข้าเมือง) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีชื่อร้านว่า “รถถังบาร์เบอร์” ส่วนเจ้าของร้านตัดผมสุดแหวกแนวนี้คือ นายปฏิญญา ศรีสุภมาตุ อายุ 34 ปี ที่นอกจากจะเป็นช่างตัดผมนำเทรนตอบโจทย์วัยรุ่นแล้วนั้นเจ้าตัวยังเป็นช่างสักลายที่เปิดร้านอยู่ในจุดเดียวกันอีกด้วย ซึ่งในช่วงนี้ก็ยังคงมีลูกค้าหมุนเวียนสับเปลี่ยนเข้ามาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง ที่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงาน

จากการสอบถามทางด้าน นายปฏิญญา ศรีสุภมาตุ เจ้าของร้าน “รถถังบาร์เบอร์” บอกว่า ไอเดียร์แนวคิดนี้เกิดมาจากการที่ตัวเองเป็นคนชื่นชอบความแตกต่าง อย่างเช่นในเรื่องของวงการตัดผมนั้นแบบเดิมๆ จะมีการจ่ายค่าบริการแบบเหมาเป็นทรง ในราคาที่แตกต่างกันออกไป แต่จากการที่ตนเปิดร้านมาได้สักระยะหนึ่งแล้วนั้นตนมีความคิดว่าการตัดผมแต่ละทรงและแต่ละรูปแบบนั้นก็ขึ้นอยู่กับรูปหัวของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วย ทำให้บางครั้งการตัดผมในแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เช่น บางคนที่ทรงผมมาแบบไม่ยาวมาก เข้ามาใช้บริการตัดผมรองทรง แบบเหมาจ่ายในราคา 100 บาท กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็ตัดทรงเดียวกันแต่ผมยาวกว่า อย่างที่ตนเคยเจอแบบยาวกลางหลัง ก็ต้องคิดราคาเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วบางคนอาจใช้เวลาในการตัดผมที่ไม่เท่ากัน แต่ก็ต้องคิดในราคา 100 บาทเท่ากัน

ดังนั้นตนจึงเกิดความคิดว่าในการให้บริการแต่ละครั้งจะทำอย่างไรให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรู้ได้ว่าการให้บริการแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน และการตัดผมแบบไหนที่วัดความยากง่ายที่แตกต่างกัน ตนจึงมาทดลองตัดผมด้วยการจับเวลาและลองให้บริการมาระยะหนึ่งจนกระทั่งรู้สึกว่าเกิดความลงตัวแล้ว และคิดเวลาเป็นแบบควอเตอร์ แบ่งเป็นควอเตอร์ละ 15 นาที โดยเริ่มตนในควอเตอร์แรก 35 บาท โดยเริ่มนับจาก 1-15 นาทีแรกในราคา 35 บาท และในนาทีที่ 16-30 ก็คิดราคา 70 บาท จากนั้นนาทีที่ 31-45 ก็จะเพิ่มราคาเป็น 105 บาท และในนาทีที่ 46 เป็นต้นไปก็คิดราคา 140 บาท โดยไม่มีการโกงงหรือเอาเปรียบลูกค้าแต่อย่างใด และโดยปกติหากเป็นทรงผมธรรมดา ที่ร้านส่วนใหญ่ก็จะตัดอยู่ที่ประมาณ 90-150 บาท แต่เมื่อมีการจับเวลาก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะได้ราคาที่ถูกกว่าราคาทั่วไป อย่างเช่นทรงนักเรียน ก็ใช้เวลาประมาณ 17 นาที ซึ่งเป็นควอเตอร์ที่ 2 ก็อยู่ที่ 70 บาท

ขณะเดียวกันทางตนยืนยันว่าการให้บริการของตนนั้นจะไม่มีการเอารัดเอาเปรียบลูกค้าแต่อย่างใด และหลังจากนี้ก็จะมีการทำป้ายแจ้งกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วยว่า ทางร้านจะไม่มีการถ่วงเวลาใดๆ ทั้งสิ้น และจะตัดตามเวลาจริง เช่น หากลูกค้ามีธุระหรือต้องไปหยิบจับอะไรในระหว่างที่กำลังตัดผมอยู่นั้น ตนก็จะหยุดเวลาให้ และเมื่อกลับมาตัดก็จะกดต่อเวลาใหม่หลังจากเวลาเดิมที่หยุดไป ซึ่งแนวคิดที่ตนคิดขึ้นมานี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คิดว่ายังไม่ร้านตัดผมร้านไหนทำ และตนคิดว่าน่าจะเป็นแนวคิดที่สวนกับกระแสช่วงโควิดด้วย