อนุทิน เผย กรมวิทย์ฯ กำลังศึกษาสารสกัดจากรากต้นกัญชา พบมีผลช่วยรักษาเนื้อเยื่อปอด เร่งทำการวิจัยและทดลองอย่างเร็วที่สุด เพื่อนำไปพื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อปอดที่ถูกทำลายจากโรคโควิด 19
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังศึกษาสารสกัดจากรากกัญชาในหลอดทดลอง พบมีผลช่วยรักษาเซลล์ปอด เพื่อต่อยอดรักษา ฟื้นฟู ปอดของผู้ป่วยโควิด 19 ที่หายแล้ว ซึ่งเซลล์เนื้อเยื่อปอดถูกทำลายขณะติดเชื้อ พร้อมให้แนวทางมอบผลตอบแทนวิสาหกิจชุมชนที่ตัดช่อดอกส่งรัฐ เป็นผลิตภัณฑ์ หรือสารสกัดจากช่อดอกกัญชา เพื่อนำไปต่อยอดเสริมสร้างรายได้
วันนี้ (21 มิถุนายน 2564) ที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวขณะเปิดงานตัดช่อดอกกัญชาสายพันธุ์ไทย ว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกี่ยวกับการนำส่วนต่างๆ ของต้นกัญชามาวิจัยต่อยอดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พบว่า สารสกัดจากรากของต้นกัญชาจากการวิจัยในหลอดทดลอง มีผลช่วยรักษาเซลล์เนื้อเยื่อของปอด จึงมอบให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทำการทดลองวิจัยอย่างจริงจังและรวดเร็วที่สุด เพื่อจะนำไปพื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อปอดที่ถูกทำลายจากโรคโควิด 19 ให้กลับมาใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ทั้งนี้ รวมถึงอวัยวะอื่นๆ ของมนุษย์ด้วย ซึ่งถือว่าจะเป็นประโยชน์มหาศาลในวงการการแพทย์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการทดลองและวิจัยขอให้ประชาชนอย่านำรากกัญชามาใช้เองเนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ให้รอผลวิจัยอย่างเป็นทางการที่แน่ชัดก่อน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้หารือกับอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่จะทำให้กัญชาเป็นทางเลือกในการเสริมสร้างรายได้ประชาชนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงให้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หาแนวทางมอบผลตอบแทนแก่วิสาหกิจชุมชนที่นำช่อดอกมาขายให้กับภาครัฐ อาจจะเป็นในรูปของผลิตภัณฑ์ หรือสารสกัดจากช่อดอกกัญชา เพื่อนำไปต่อยอดเสริมสร้างรายได้ หาโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชน โดยจะพยายามให้เกิดเป็นความจริงโดยเร็วที่สุด
ที่มา : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข
ลิ้งค์ข่าว : https://pr.moph.go.th/url=pr/detail/2/04/160084/&fbclid=IwAR2rQc2eXPNfQFbNYNdt_bsZnJ62m_vL-jVsNODGFbSajeeIdzRfousUo_4
