โควิดเรือนจำกลางเชียงใหม่ วันนี้รักษาหายเพิ่ม 1,702 ราย คงเหลือรักษาเพียง 182 รายเท่านั้น คาดปิดสถานการณ์ได้ในเร็ววันนี้

337

โควิดเรือนจำกลางเชียงใหม่ วันนี้รักษาหายเพิ่ม 1,702 ราย คงเหลือรักษาเพียง 182 รายเท่านั้น คาดปิดสถานการณ์ได้ในเร็ววันนี้

วันที่ 28 พ.ค. 64 ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ รายงานข้อมูลสถานการณ์การระบาดภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ (26 เม.ย.- 28 พ.ค. 64) ว่า วันนี้เรือนจำกลางเชียงใหม่มีผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เพิ่ม 2 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,997 ราย สำหรับวันนี้มีผู้รักษาหายแล้วเพิ่มมากต่อเนื่องเป็นวันที่สอง รักษาหายเพิ่ม 1,702 ราย ส่งผลให้มียอดผู้รักษาหายแล้วสะสม เพิ่มเป็น 3,688 ราย ส่วนยอดผู้ตรวจไม่พบเชื้อสะสมรวม 1,224 ราย

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ ลดลงอย่างมาก วันนี้มีผู้อยู่ระหว่างการรักษาเพียง 182 ราย แยกรักษาตัวในแดนต่างๆ 172 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ 48 ราย แยกตามอาการเป็น ระดับสีเขียว 37 ราย สีเหลือ 11 ราย ส่วนสีส้มไม่มี และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ 7 ราย

ในช่วงควบคุมสถานการณ์การระบาดภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ (26 เม.ย.- 28 พ.ค. 64) ยอดการปล่อยตัวผู้ต้องขังถึงวันนี้ ยอดปล่อยตัวสะสมทั้งสิ้น 131 ราย วันนี้ไม่มีการปล่อยตัวและรับผู้ต้องขังเข้ามาส่งเข้ามายังเรือนจำใหม่ ส่งผลให้ยอดผู้ต้องขัง ณ วันที่ 27 พ.ค. 64 มีทั้งสิ้น 6,496 ราย วันนี้มีการปล่อยตัวเพื่อส่งต่อไปกักตัวในสถานกักกันของรัฐในพื้นที่อำเภอแม่แตง 1 ราย ส่งผลให้ยอดยังคงเดิมสะสมอยู่ที่ 64 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่สะสมที่ 40 ราย ส่งให้หน่วยงานอื่น อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรต่างๆ ดำเนินการต่ออีกสะสมที่ 15 ราย และมียอดผู้ต้องขังที่รักษาหายและปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาสะสม จำนวน 12 ราย

สำหรับการบริหารผู้ที่อยู่ในสถานกักกันองรัฐฯ หรือ LQ อำเภอแม่แตงรายงานว่า วันนี้ยอดผู้ที่ถูกส่งตัวเข้า LQ ยังคงที่อยู่ที่ 64 ราย แต่มีผู้ที่กักตัวใน LQ ครบตามเวลาที่กำหนด ตรวจพบเป็นปกติ และส่งตัวกลับภูมิลำเนา 1 ราย ส่งผลให้ผู้ที่ยังกักตัวใน LQ เหลืออยู่อีก 13 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่เป็นยอดสะสมที่ 36 ราย และส่งตัวกลับภูมิลำเนาสะสมอยู่ที่ 15 ราย

P2GEDN.jpg