ระทึก!! (มีคลิปวีดีโอ) คนร้ายบุกเดี่ยว ใช้กรรไกรล็อคคอจี้สาวแบงค์ออมสิน สาขาท่าแพ แต่เจ้าตัวขัดขืน ก่อนเจ้าหน้าที่ในแบงค์ช่วยกันต่อสู้ จนสุดท้ายคนร้ายวิ่งหนีควบ จยย. ไม่ได้เงินซักบาท ด้านตำรวจเร่งแกะรอยตามล่าตัว
ช่วงเย็นวันนี้ (5 พ.ค.64) รายงานข่าวแจ้งว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายใช้กรรไกรเป็นอาวุธ บุกเข้าไปในธนาคารออมสิน สาขาท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ ตรงเข้าล็อคคอพนักงานหญิงขณะกำลังจะปิดประตูธนาคารในช่วงที่ธนาคารกำลังปิดทำการ พร้อมทั้งข่มขู่บังคับเอาเงิน แต่พนักงานสาวต่อสู้ขัดขืนสะบัดดิ้นจนหลุดและวิ่งหนี เป็นจังหวะที่มีพนักงานคนอื่นเข้ามาช่วยจนเกิดการชุลมุน ต่อสู้กัน ปรากฏว่าคนร้ายได้วิ่งหนีออกไปขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีแดงเข้ม ซึ่งคนร้ายได้ทำการปิดบังแผ่นป้ายทะเบียนที่จอดไว้หน้าธนาคารหลบหนีไปโดยไม่ได้เงินแม้บาทเดียว
โดยหลังจากเกิดเหตุ ในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองเชียงใหม่ ระดมกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณไม่เกิน 40 ปี รูปร่างผอม สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวน เบาะแสสกัดจับคนร้ายทั่วเมืองและอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี เพื่อตามจับกุมมาดำเนินคดี คาดว่าน่าจะได้ตัวไม่ยาก
ขณะที่ในเวลาต่อมา ทางด้านผู้สื่อข่าวได้เข้าไปยังที่เกิดเหตุธนาคารสาขาดังกล่าว และได้สอบถามทางด้าน น.ส.มธุริยา อายุ 27 ลูกจ้างปฏิบัติงานธนาคารออมสิน สาขาท่าแพ ที่ถูกคนร้ายรายนี้ล็อคคอ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 4 โมงกว่า ตนได้ออกมาด้านหน้าธนาคาร เพื่อเก็บกระดาษเอกสาร ซึ่งระหว่างนั้นเป็นช่วงที่ธนาคารปิดให้บริการแล้ว และประตูหน้าธนารคารก็เปิดไว้ครึ่งเดียว โดย ขณะที่ตนกำลังหันหลังเข้าไปคุยกับผู้ช่วย ผจก.คนร้ายที่ก่อเหตุก็พุ่งเข้ามา จากนั้นก็ล็อคคอตนแล้วขู่เอาเงิน พร้อมทั้งบังคับให้ตนส่งเงินที่มีให้ แต่ระหว่างนั้นตนก็พยายามขัดขืดดึงมือของคนร้ายออกแล้ววิ่งหนี แต่คนร้ายก็วิ่งตามแล้วดึงตัวกลับมา จากนั้นผู้ช่วย ผจก. เห็นเหตุการณ์ก็ออกมาช่วยเหลือตนบริเวณด้านหน้าธนาคาร ซึ่งระหว่างนั้นตนกับคนร้ายก็กำลังฉุดกระชากยื้อกันอยู่ ก่อนที่คนร้ายจะรีบวิ่งหลบหนี แล้วควบรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณด้านหน้าธนาคาร ขับหลบหนีไปทางประตูท่าแพ
โดยจากการสังเกตรูปร่างลักษณะของคนร้ายตนคิดว่าอายุน่าจะไม่เกิน 40 ปี และตัวเล็กกว่าตน ผลิวคล้ำ ส่วนหน้าตานั้นเห็นไม่ชัดเจน เพราะคนร้ายสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ เห็นแค่ช่วงหน้าผากกับตา และสวมถุงมือและมีกรรไกร อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวแต่ก็ตั้งสติ และคาดว่าหลังจากนี้ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเบาพแสของคนร้าย แล้วดำเนินการจับกุมตัวต่อไป