ตร.สันกำแพง เตือนภัย! หลังรวบหนุ่มพนักงานส่งอาหาร อาศัยช่องทางเป็นพนักงานทำให้ชาวบ้านไม่เอะใจ ตระเวนเข้าลักทรัพย์ตามบ้านเรือน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
วันที่ 7 เม.ย.64 รายงานข่าวได้รับแจ้งข้อมูลจาก สภ.สันกำแพง โดยการอำนวยการ พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สันกำแพง พร้อมชุดสืบสวน สภ.สันกำแพง ร่วมกันจับกุมตัวนายนพดล (หรือเหมา) วงศ์แจ่ม อายุ 25 ปี เหตุเกิดบ้านเลขที่ 199/65 และ 199/92 ม.2 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นของ วันที่ 2 เม.ย.64 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง ได้รับแจ้งจาก นายนันทวัฒน์ อินจันทร์ อายุ 44 ปี และ นายเกรียงศักดิ์ สินวนาทรัพย์ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุทั้ง 2 หลัง ที่อยู่ใกล้เคียงกันว่ามีทรัพย์สินสูญหายหลายรายการ จากการถูกคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ เมื่อทราบดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยจากการตรวจสอบล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ พบผู้ต้องส่งสัยเป็นชาย 1 คน สวมหมวกนิรภัยสีดำ เสื้อแจ๊คเกต (สีเขียว) แขนยาว (ของบริษัทส่งอาหารแห่งหนึ่ง) และสวมกางเกงยีนต์ขายาวสีเทา รองเท้าผ้าใบสีขาว ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟีราโน่ สีเขียว ด้านท้ายรถจักรยานยนต์มีกล่องใสของสีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามายังหมู่บ้าน และขับวนไปตามซอยต่างๆ ภายในหมู่บ้าน และภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุของ นายนันทวัฒน์ พบว่าชายคนดังกล่าวได้เข้ามาภายในบ้านกำลังลักทรัพย์
ต่อมา นายนันทวัฒน์ ผู้เสียหายได้ติดตามเอาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อเลโนโว่ซึ่งจนเป็นเจ้าของ ที่ถูกคนร้ายลักไปดังกล่าวนำไปขายต่อที่ร้านคอมพิวเตอร์ย่านสันติธรรม อ.เมือเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบกับร้านค้าทรายว่า ผู้นำมาจำหน่ายคือ นายนพดล อายุ 25 ปี ชาว ต.สบป๊าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้าย และตามวันเวลาจับกุมขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจออกซักถามพยาน หน้าบ้านพักย่าน ต.ตลาดใหญ่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พบชายวัยรุ่นมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับ นายนพดล เมื่อชายดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีท่าทางพิรุธ จะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้รีบเข้าไปตรวจสอบและซักถามบุคคลดังกล่าว
จากการสอบถามทางเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวจริง โดยได้นำทรัพย์สินที่ลักมาได้ไปจำหน่ายบางส่วนคือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อเลโนโว่ นำไปจำหน่ายที่ร้านย่านสันติธรรม, นาฬิกาข้อมือยี่ห้อคาซิโอ รุ่นจีช๊อค นำไปจำนำที่โรงรับจำนำในเมืองเชียงใหม่ และกระเป๋าถือผู้หญิง(กุ๊ดชี่) ซึ่งตนเองไม่ทราบราคา ได้นำไปทิ้งที่ถึงขยะหน้าต้นเปาพลาซ่า หลังก่อเหตุ
ต่อมาทางเจ้าหนาที่ได้ร่วมกันทำการตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ต้องหาพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟีราโน่ สีเขียว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2กต-6XX2 เชียงใหม่ นอกจากนี้พบเสื่อแขนยาวสีเขียว มีสัญลักษณ์ของบริษัทส่งอาหารแห่งหนึ่ง , เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ จำนวน 1 ตัว , กล่องเก็บของท้ายรถจักรยานยนต์สีเขียว มีสัญลักษณ์ของบริษัทส่งอาหารแห่งหนึ่ง , รองเท้าผ้าใบสีขาว ยี่ห้อคอนเวิร์ส จำนวน 1 คู่ , หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สีดำ จำนวน 1 ใบ , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อฟูจิซึ จำนวน 1 เครื่อง , กระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ Tigernu จำนวน 1 ใบ , ถุงมือกันแดดสีดำ สำหรับขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คู่ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเวลคัม สีเขียว จำนวน 1 เครื่อง
สอบถามทาง นายนพดล ยังให้การรับสารภาพว่า เคจก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล่วหลายครั้ง โดยอาศัยใช้โอกาสที่ตนเองเป็นพนักงานส่งอาหารและของแบบถึงบ้านซึ่งเป็นอาชีพที่ประชาชนทั่วไปให้ความไว้วางใจเข้าออกพื้นที่ได้โดยสะดวก และอาศัยช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ลงมือก่อเหตุ จากนั้นเมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายนำเงินมาใช้จ่าย จนกระทั่งถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในครั้งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งได้ทำการส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนภัยกับประชาชนว่าให้ระมัดระวังคนร้ายอาศัยช่องทางในลักษณะดังกล่าวก่อเหตุดังนั้นจึงควรป้องกันทรัพย์สินของตัวเอง หากเดินทางออกนอกบ้านควรปิดล็อกประตูให้มิดชิดเพื่อป้องกันคนร้ายที่อาศัยช่องทางลักษณ์เช่นนี้ก่อเหตุอีก
