เชียงใหม่ประกาศ “ห้ามเผาทุกชนิด” ตั้งแต่ 1 มี.ค. – 30 เม.ย. 64 ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง

255

เชียงใหม่ประกาศ “ห้ามเผาทุกชนิด” ตั้งแต่ 1 มี.ค. – 30 เม.ย. 64 ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 นายสมคิดปัญญาดี ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในรายการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พบประชาชนว่า ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเรื่องห้ามการเผาทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม-30 เมษายน 2564 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมานั้น เป็นประกาศที่เน้นไปที่การห้ามเผาในพื้นที่ที่มิใช่พื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง แต่พื้นที่ที่ได้มีการลงระบบขอการบริหารจัดการเชื้อเพลิงไว้แล้วล่วงหน้า สามารถดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้ ส่วนพื้นที่ที่จะมาขอบริหารจัดการเชื้อเพลิงหลังวันที่ 1 มีนาคม 2564 จะไม่อนุญาตให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เว้นแต่พื้นที่ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ให้ทำการร้องขอไปยังคณะกรรมการระดับพื้นที่ เพื่อส่งคำร้องมายังศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาการบริหารจัดการเชื้อเพลิงเป็นรายกรณีไป ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับจุดความร้อนที่พบในห้วงที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,826 จุด ซึ่งลดลงจากปี 2563 ถึง 45% ที่มีจุดความร้อนสูงถึง 4,685 จุด ในห้วงเวลาเดียวกัน ซึ่งจุดความร้อนที่ลดลงไปได้เกือบครึ่งนั้น เป็นเพราะได้มีการกำหนดขอบเขตการบริหารจัดการเชื้อเพลิง รวมถึงควบคุมการเผาไหม้และการดับไฟอย่างเป็นระบบ

อย่างไรก็ตาม คุณภาพอากาศในช่วง 2-3 วันนี้ มีค่าคุณภาพอากาศสูงขึ้น มีฝุ่นควันปกคลุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากจังหวัดเชียงใหม่ได้รับอิทธิพลจากลมที่พัดมาจากด้านตะวันออกและจากด้านตะวันตก โดยลมจากด้านตะวันออกถูกพัดพามาจากทางภาคอีสานซึ่งเป็นฝุ่นควันจากการเผาไร่อ้อย รวมถึงฝุ่นควันจากจังหวัดข้างเคียงในทางใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีจุดความร้อนเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ส่วนทางด้านตะวันตกก็มีการเผาในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งฝุ่นควันทั้ง 2 ทิศทาง ที่พัดลงจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ทำให้ค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่สูงขึ้น ซึ่งวันนี้ค่าคุณภาพอากาศที่จุดวัดสถานีช้างเผือกอยู่ที่ 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีศรีภูมิ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่โรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา อำเภอแม่แจ่ม 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในแถบสีส้ม หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ประชาชนงดกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ขึ้นไป

ข่าว-ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

oamrg2.jpg