พาณิชย์เชือดแล้ว 45 ร้านค้า ฉวยโอกาสขึ้นราคา “คนละครึ่ง-เราชนะ” ชี้โทษหนักคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท

1891

พาณิชย์เชือดแล้ว 45 ร้านค้า ฉวยโอกาสขึ้นราคา “คนละครึ่ง-เราชนะ” ชี้โทษหนักคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า เพื่อป้องกันและแจ้งเตือนร้านธงฟ้าไม่ให้มีพฤติกรรมฉวยโอกาส หรือกระทำผิดกรมการค้าภายในจึงได้ส่งหนังสือเวียนถึงร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้ถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ คือ ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ห้ามรับ/แลกเป็นเงินสด ห้ามบังคับการซื้อ/ขายสินค้า ห้ามจำหน่ายบุหรี่/สุรา/เบียร์ให้แก่ผู้ถือบัตรฯ ห้ามเอาเปรียบฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด กรณีที่พบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและแจ้งกรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเรียกคืนเครื่องอีดีซี หรือยกเลิกการใช้แอปพลิเคชั่นด้วย นอกจากนี้จะประสานกระทรวงการคลังในฐานะผู้ดูแลโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ หรือโครงการอื่นๆ ด้วย

นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน กรมการค้าภายในดำเนินคดีกับร้านค้าไปแล้ว 68 ราย โดยเป็นร้านธงฟ้า จำนวน 45 ราย ที่มีพฤติกรรมไม่ปิดป้ายแสดงราคา ปรับราคาสูงขึ้น และกระทำผิดตามหลักเกณฑ์ ซึ่งได้ยกเลิกสิทธิ์ไปแล้ว จึงขอให้ร้านค้าต่างๆ ปิดป้ายแสดงราคา และจำหน่ายราคาปกติเพื่อช่วยกันในช่วงวิกฤตขณะนี้ หากตรวจสอบพบว่าไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และหากจำหน่ายสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในได้จัดสายตรวจลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับต่างจังหวัดได้ให้พาณิชย์จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบหากพบการกระทำผิดจะให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดประเทศ