เชียงใหม่เปิดได้แล้ว!! สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ตั้งแต่ 1 ก.พ. 64 เป็นต้นไป
ตามที่พบผู้ติดเชื้อรายที่ 50 ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางไปยังสถานบริการหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ใช้มาตรการปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับ สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 19 มกราคม 2564 เพื่อควบคุมไม่ให้ เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง และได้ขยายเวลาปิดสถานที่ดังกล่าวไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ประกอบกับได้มีการกําหนดมาตรการป้องกันโรคเพิ่มเติมในร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยให้สามารถใช้สถานที่ เพื่อการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 22.00 นาฬิกา
ขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ใน พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นระยะเวลาเกินกว่า 14 วันแล้ว และสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น ตามลําดับ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการผ่อนคลายให้กิจกรรม ทางด้านเศรษฐกิจสามารถดําเนินการไปได้ และช่วยลดคนว่างงานได้จํานวนหนึ่ง อาศัยอํานาจตามความใน มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อ 7 (1) ของข้อกําหนดออกตามความ ในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และ ข้อ 5 ของข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 21/2564 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 จึงออกคําสั่ง ดังนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 11/2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 ในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 19 มกราคม 2564
ข้อ 2 ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ ทุกแห่ง เปิดให้บริการได้ตามที่กฎหมายกําหนด ภายใต้มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กําหนด และ มาตรการเพิ่มเติม ดังนี้
1) จัดให้มีและเปิดระบบระบายอากาศ และระบบหมุนเวียนอากาศภายในสถานที่ดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 10 ACH (Air Change per Hour) ตามมาตรฐานของทางราชการ ตลอดระยะเวลาที่เปิดบริการ
2) ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าใช้บริการด้วยแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เท่านั้น โดยงดเว้น การลงทะเบียนด้วยการเขียนในสมุด หากมีเหตุผลความจําเป็นอย่างยิ่งให้ผู้ประกอบการบันทึกชื่อ – ชื่อสกุล พร้อมหมายเลขโทรศัพท์เก็บไว้
3) ให้จัดทําป้ายโดยมีสาระสําคัญ ได้แก่ จํานวนพื้นที่ให้บริการโดยมีหน่วยเป็นตารางเมตร จํานวนผู้ใช้บริการที่สามารถรองรับได้ (4 ตารางเมตรต่อ 1 คน) จํานวนผู้เข้าใช้บริการขณะนั้นกี่คน และ จํานวนคงเหลือที่สามารถให้บริการได้ เพื่อลดความแออัดของผู้เข้าใช้บริการ รายละเอียดตามแบบที่กําหนด แนบท้ายคําสั่งฉบับนี้
4) ตรวจคัดกรองผู้เข้าใช้บริการตามมาตรฐานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ข้อ 3 คําสั่งใดขัดหรือแย้งกับคําสั่งฉบับนี้ให้ใช้คําสั่งนี้แทน
อนึ่ง การดําเนินการตามคําสั่งนี้ เป็นไปตามพระราชกําหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 16 ของพระราชกําหนดดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคําสั่งนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือต้อง ระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564 (นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่