สธ.เผย 60 จังหวัดคุมโควิด-19 ได้ดี สถานการณ์ดีขึ้น อาจประเมินผ่อนปรนมาตรการได้

598

กระทรวงสาธารณสุข เผย 60 จังหวัดถือว่าสถานการณ์ดี อาจผ่อนปรนมาตรการได้ รอประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อหลังครบสัปดาห์นี้ ย้ำมาตรการควบคุมโรคประเมินทุกด้าน เพื่อฟื้นตัวอย่างมั่นคง มีคุณภาพ และไม่ช้าเกินไป

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า วันนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 99.7 ล้านราย คาดว่าวันที่ 26 มกราคม 2564 จะมีผู้ติดเชื้อถึง 100 ล้านรายเป็นวันแรก สำหรับสหรัฐอเมริกามีการติดเชื้อสะสมมากกว่า 25.7 ล้านราย โดยการติดเชื้อรายใหม่เริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย หลายคนคาดหวังว่าจะเป็นผลจากวัคซีน สำหรับประเทศไทยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 187 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทำให้มียอดสะสม 13,687 ราย หายป่วยสะสม 10,662 ราย เสียชีวิตสะสม 75 ราย หากนับเฉพาะระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อสะสม 9,450 ราย รักษาหายสะสม 6,722 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย

นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนมกราคม พบการติดเชื้อใน 7 จังหวัด และจะรอให้ครบทั้งสัปดาห์ เพื่อประเมินแนวโน้มผู้ติดเชื้อทั้งหมดเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,622 ราย และจำนวนจังหวัดที่พบการติดเชื้อจากที่สัปดาห์ก่อน ที่พบมีการติดเชื้อสะสม 24 จังหวัด โดยจังหวัดที่ไม่พบการติดเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 46 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบการติดเชื้อเลยมี 14 จังหวัด และจะมีการประเมินเพื่อการทบทวนและปรับมาตรการดำเนินการทุก 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ จังหวัดที่พบผู้ป่วยจำนวนลดลง แสดงว่ามีการดำเนินการควบคุมโรคได้ดี อาจได้รับการพิจารณาผ่อนปรนความเข้มข้นลงไป

นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทย 94 ประเทศ จำนวน 218,735 คน ตรวจพบผู้ติดเชื้อจากประเทศต้นทาง 80 ประเทศรวม 1,755 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.81 รักษาหาย 1,566 ราย คิดเป็นร้อยละ 88 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 ของผู้ติดเชื้อ โดยผู้ติดเชื้อเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในอัตรา 1.23 : 1 อายุเฉลี่ย 32 ปี โดยพบอายุต่ำสุด 2 เดือน มากที่สุด 83 ปี สัญชาติที่พบมากสุด คือ คนไทย 1,298 ราย รองลงมาคืออินเดีย 79 ราย สหรัฐอเมริกา 49 ราย อังกฤษ 31 ราย รัสเซีย 29 ราย ฝรั่งเศส 24 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 19 ราย ปากีสถาน 16 ราย ญี่ปุ่น 14 ราย และเยอรมนี 14 ราย

“มาตรการควบคุมโรคของประเทศต่างๆ ล้วนต้องการที่จะฟื้นฟูกลับมาให้เร็วที่สุด แต่คำว่าเร็วที่สุดต้องดีที่สุดด้วย การเกิดระลอกการระบาดทำให้ประเทศต่างๆ ล้มลง ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจ การลุกขึ้นเร็ว อาจเซล้มลงได้อีก ซึ่งจะเป็นปัญหาที่เกิดผลกระทบระยะยาว ดังนั้นในการควบคุมโรคจึงควรมีการประเมินในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ลุกขึ้นมาได้อย่างมั่นคง มีคุณภาพ และไม่ช้าเกินไป ขอฝากประชาชนเรื่องของการพยายามดูแลตัวเอง
รักษาระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก เข้มงวดกับตัวเองจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด” นพ.เฉวตสรรกล่าว

ส่วนกรณีผู้ประกาศข่าว NBT จากการสอบสวนโรคยืนยันว่าไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงของดีเจมะตูม สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกัน ได้รับการแจ้งเตือนครอบคลุมครบถ้วน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแม้ผลจะเป็นลบ ก็ยังกักตัวต่อให้ครบ 14 วัน