ตร.ภาค 5 สรุปผลการกวาดล้างอาชญากรรม-ยาเสพติด ในพื้นที่ ยึดของกลางอาวุธปืน และยาเสพติดอื้อ ด้าน ผบช.เผย คดีเกี่ยวกับทรัพย์พุ่งสูง แต่ยืนยันพร้อมดูแลประชาชนสั่งคุมเข้มช่วงปีใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณอาคารคุ้มแก้วขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต , พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร , พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ, พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา , พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5 ร่วมกับ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 , พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรม ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง หนี้นอกระบบ และคดียาเสพติด ในรอบไตรมาส 1/2564 และก่อนการเลือกตั้งสมาชิกและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งผลการปฏิบัติในช่วงเดือน ตุลาคม จนถึง ธันวาคม 2563 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค5 สามารถจับกุม คดียาเสพติดภาพรวมทุกข้อหา 6,862 คดี ผู้ต้องหา 6,112 คน จับกุมคดียาเสพติด 5 ข้อหาสำคัญ 2,037 คดี ผู้ต้องหา 1,505 คน และจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 28 คดี ผู้ต้องหา 55 คน
นอกจากนี้ในการปฏิบัติการกวาดล้าง สามารถยึดของกลาง ยาบ้า 10,441,240 เม็ด , ไอซ์ 259.10 กิโลกรัม , ฝิ่น 30.72 กิโลกรัม , กัญชาสด 173.29 กิโลกรัม , กัญชาแห้ง 18.06 กิโลกรัม , เคตามีน 10.02 กิโลกรัม , เฮโรอีน 1.46 กิโลกรัม ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สิน จำนวน 140 ราย มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 144,556,365 บาท ขณะเดียวกันพบผู้มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้างของ ภ.5 มี 2 ราย ปัจจุบันทั้ง 2 ราย ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่และไม่พบความเคลื่อนไหวในพื้นที่อีกเลย และได้ทำการจับกุม/ตรวจยึดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุน แยกเป็น อาวุธปืน 450 กระบอก , เครื่องกระสุน 356 นัด ส่วนผลการดำเนินการในความผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบได้รับแจ้งทั้งหมด 177 เรื่อง ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 164 เรื่อง
โดยทางด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า จากการสรุปผลการปราบปรามในห้วงไตรมาสที่ 1 ของอตำรวจภูธรภาค 5 นั้น พบว่า จังหวัดใหญ่ๆ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จะมีคดีเกี่ยวกับทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น แต่ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้มีการจับกุมคู่กรณีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ส่วนจังหวัดอื่นๆ นั้นการจับกุมในคดีกลุ่มที่ 4 คือคดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหายก็จะมากขึ้น และอีกคดีคืนดีกลุ่มที่ 3 คือคดีที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ทุกสถานีตำรวจได้มีความตื่นตัวในการจับกุมผู้กระทำความผิด เนื่องจากในช่วงฤดูหนาว ที่ภัยแล้งใกล้มาถึง และปัญหาหมอกควันก็จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ จึงได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ในการสอดส่องและป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
ขณะเดียวกันในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้องรับปีใหม่ เกี่ยวกับปัญหาในเรื่องของคดียาเสพติดนั้น ก็มีมาตรการในการป้องกันโดยมีการเพิ่มการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น ในการป้องกัน และดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่เดินทาง เพื่อป้องกันการลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีเส้นทางการคมนาคมเป็นพื้นที่ป่าเขา และคดเคี้ยว ซึ่งได้มีการแจ้งทุกสถานีตำรวจในการติดตั้งป้ายเตือน และสัญญาณต่างๆ รวมทั้งการรณรงค์จุดเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น รวมไปถึงการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดเข้าไปในพื้นที่ตอนใน เนื่องจากจะมีประชาชนเดินทางเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือจำนวนมาก จึงอาจมีบุคคลอาศัยจังหวะนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จึงได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจุดสกัดและด่านตรวจต่างๆ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งทหารและตำรวจในการคุมเข้มตามพื้นที่ด้วย
ผบช.ภ.5 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อย่างไรก็ตามทางตำรวจภูธรภาค 5 อยากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ในช่วงของเทศกาลปีใหม่หากพี่น้องประชาชนไม่อยู่บ้าน หรือเดินทางไปตอกสถานที่ ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าร่วมโครงการ “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ” ซึ่งยืนยันว่ามีความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน