กรมการจังหวัดเชียงใหม่เห็นชอบ “ห้ามปล่อยโคมวันสิ้นปี-ขึ้นปีใหม่” ยังให้ปล่อยได้วันลอยกระทง แต่ต้องขออนุญาตก่อนและปล่อยตามเวลาที่กำหนดให้เท่านั้น

463
ปล่อมโคมปีใหม่

กรมการจังหวัดเชียงใหม่เห็นชอบการอนุญาตให้ปล่อยโคมตามสภาวัฒนธรรมจังหวัดเสนอ ตัด “การอนุญาตให้ปล่อยวันส่งท้ายปีเก่าต้อนปีใหม่” ออก ส่งผลให้เชียงใหม่ปล่อยโคมได้แค่ 2 วันช่วงเทศกาล พ่วงด้วยการแก้ไขอีกหลายประการ ทั้งการขออนุญาตต้องระบุจำนวน ขนาด ชนิด ของโคมที่จะปล่อยด้วย

วันที่ 27 พ.ย. 63 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่และคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 11/2563 ซึ่งมีการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลไปยังทุกส่วนราชการ การประชุมในครั้งนี้มีวาระสำคัญเพื่อนำสู่การพิจารณาของคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่คือ การแก้ไขประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคควัน(ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ
นายสมคิด ปัญญาดี ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบจากการปล่อยโคมลอยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับกฎหมายเกี่ยวกับการบินที่ประกาศใช้ใหม่ให้มีการควบคุมการปล่อยโคมชนิดต่าง ๆ ในพื้นที่ปลอดภัยการบิน จังหวัดเชียงใหม่จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขประกาศซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยข้อเสนอให้แก้ประกาศที่จะนำเสนอให้คณะกรมการจังหวัดพิจารณานี้ได้ผ่านความเป็นชอบจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
นายชลิต ทิพย์คำ จ่าจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ร่างประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคควัน(ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศที่แก้ไขเพิ่มเติมและผ่านความเห็นชอบของสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วนั้นจะบังคับใช้ได้ ประกาศดังกล่าวต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่ด้วย และเมื่อคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่เห็นชอบแล้วทางที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ก็จะส่งประกาศฉบับใหม่ที่ได้รับความเป็นชอบนี้ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ได้ต่อไป
“สาระสำคัญในการแก้ไขคือ ให้ยกเลิกวันอนุญาตให้ปล่อยโคมได้ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กล่าวคือ ให้ตัดข้อ 3.3 ในประกาศฉบับเดิมออก ซึ่งข้อ 3.3 ระบุว่า ให้กระทำได้ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในช่วงคืนวันที่ 31 ธ.ค. ของทุกปี โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึงเวลา 01.00 น. ของวันถัดไป ตรงนี้ตัดออก นั่นหมายความว่า จะขออนุญาตกับนายอำเภอท้องที่เพื่อปล่อยโคมได้แค่ 2 วันคือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือวันลอยกระทงเล็ก และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 หรือวันลอยกระทงใหญ่ เท่านั้น ส่วนเวลาอนุญาตให้ปล่อยได้ยังเป็นช่วงเวลาตามประกาศฉบับเดิม” จ่าจังหวัดเชียงใหม่ แจง
นายชลิตฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมใน ข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ชนิด และขนาดของโคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ที่จะทำการจุดและปล่อยขึ้นไปสู่อากาศจะต้องมีขนาดมาตรฐานทำจากกระดาษว่าว ขนาดกว้าง x ยาว ไม่เกิน 50 x 75 ซม./แผ่น ใช้ประกอบโคมจำนวน ไม่เกิน 72 แผ่น/โคม ปากโคมมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 60 ซม. หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษสีเดียวกับท้องฟ้า เช่น สีฟ้า สีขาว และสีเทา กรณีโคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ที่มีขนาดปริมาตร เกิน 1 ลบ.ม. การจุดและปล่อยต้องได้รับอนุญาตตาม โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นฉบับใหม่
“มีแก้ไขเพิ่มเติมในข้อ 7 เกี่ยวกับ สถานที่จุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ โดยให้นายอำเภอระบุพื้นที่ การจุดและปล่อย โคมลอยโคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันให้ชัดเจนถึงเขตของปริมณฑลในการอนุญาต โดยให้เพิ่มเติดว่า จะต้องแจ้ง จำนวน ชนิด และขนาดของ โคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ในการอนุญาตให้จุดและปล่อย ด้วย” นายชลิตฯ แจง
ทั้งนี้ยังมีประกาศฯ ที่แก้ไขอีกคือ ข้อ 9.1 โดยให้แก้ไขเป็น ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายโคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันในวัด โรงเรียน ทางสาธารณะ ที่สาธารณะ สถานที่ราชการ พื้นที่ที่อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศบริเวณใกล้เคียงสนามบินเชียงใหม่ และเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ เว้นแต่เป็นพื้นที่ตามข้อ 7 ของประกาศนี้ หรือเป็นการจำหน่ายในลักษณะค้าส่ง
ข้อ 9.3 ให้แก้ไขเป็น ห้ามจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใด ที่คล้ายคลึงกันขึ้นไป สู่อากาศในสถานที่ดังต่อไปนี้ 1) เขตปลอดภัยในการเดินอากาศบริเวณใกล้เคียงสนามบินเชียงใหม่ 2) พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) คือ บริเวณแนวขึ้น – ลง สนามบิน ที่อยู่ห่าง จากทางขึ้น – ลง ของเครื่องบินห่างข้างละ 4.6 กม. เป็นระยะทาง 18.5 กม. จากหัวทางวิ่งทั้ง 2 ด้าน ตามรายชื่อ ตำบลของอำเภอที่กำหนดแนบท้าย
“ร่างประกาศฉบับใหม่นี้ได้เพิ่มเติมจากประกาศฉบับเดิมมีอีก 1 ข้อ เป็น ข้อ 9.4 โดยระบุว่า พื้นที่นอกจากพื้นที่ตามข้อ 9.3 ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาต จากนายอำเภอแห่งท้องที่ ทั้งนี้ ต้องยื่นขอรับใบอนุญาตล่วงหน้าก่อนวันจุดและปล่อย ไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อให้สามารถกระทำได้ในพื้นที่เขตเส้นทางการบินเข้า – ออก สนามบินเชียงใหม่ ตามรายชื่อตำบลของอำเภอที่กำหนดแนบท้ายประกาศนี้ โดยให้นายอำเภอใช้เอกสารที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ ประกอบการพิจารณาอนุมัติให้จุดและปล่อย สำหรับพื้นที่อื่น นายอำเภอสามารถตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่และแจ้งประสานท่าอากาศยานเชียงใหม่ หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ทราบล่วงหน้า 14 วัน” นายชลิต ทิพย์คำ จ่าจังหวัดเชียงใหม่ แจงรายละเอียดต่อที่ประชุมคณกรรมการจังหวัด
นายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานที่ประชุมคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สอบถามความเห็นของคณะกรมการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคควัน(ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ และมอบหมายให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ต่อไป
ปล่อมโคมปีใหม่