(มีคลิป Video) พนักงานโรงแรมดังเชียงใหม่กว่า 300 ชีวิต รวมตัวร้องผู้ว่าฯ หลังถูกผู้บริหารลอยแพไม่ยอมจ่ายเงินชดเชย แต่ยังคงสภาพเป็นพนักงานจนไม่สามารถไปสมัครงานที่อื่นได้

33016

(มีคลิป Video) พนักงานโรงแรมดังเชียงใหม่กว่า 300 ชีวิต รวมตัวร้องผู้ว่าฯ หลังถูกผู้บริหารลอยแพไม่ยอมจ่ายเงินชดเชย แต่ยังคงสภาพเป็นพนักงานจนไม่สามารถไปสมัครงานที่อื่นได้ และเลื่อนการเปิดกิจการไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการบีบให้พนักงานลาออกไปเองและจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณด้านหน้าอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มพนักงานจากโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนกว่า 100 คน รวมตัวกันชูป้าย พร้อมทั้งนำหลักฐานเอกสารเข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นพนักงานของโรงแรมดังกล่าวต่างได้รับความเดือดร้อน จากการที่ทางโรงแรมไม่ยอมจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับทางพนักงานทั้งหมด แต่ยังคงสภาพพนักงาน และเลื่อนการเปิดกิจการไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการบีบให้พนักงานลาออกไปเองและจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ค่าเสียหายจากการเลิกจ้าง นอกจากนี้ทางโรงแรมยังขาดใบอนุญาตมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 63 ซึ่งทำให้ทางโรงแรมในขณะนี้กลายเป็นโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต รวมทั้งในขณะนี้สภาพของโรงแรมหลายจุดมีสภาพเสื่อมโทรมจากการที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีการปรับปรุงดูแล และยังมีการถูกยึดทรัพย์จากเจ้าหนี้ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมด ทำให้พนักงานทั้งหมดภายในโรงแรมมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณกว่า 300 คน ก็ไม่สามารถไปสมัครงานที่อื่นได้ และไม่สามารถรับเงินค่าชดเชยได้ ซึ่งคิดรวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางพนักงานกว่า 100 ล้านบาท

โดยทาง นายอำนาจ อายุ 54 ปี ผู้จัดการห้องอาหารจีน ของโรงแรมดังกล่าว เปิดเผยว่า การรวมตัวกันของพนักงานในครั้งนี้ เพื่อขอความช่วยเหลือกับทางแรงงานจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องในเรื่องของการเรียกร้องเงิน หลังจากที่โรงแรมแห่งนี้ได้มีการออกมาแถลงการณ์ในเรื่องของผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอ้างว่าเกิดผลกระทบกับโรงแรม และมีการเลื่อนการจ่ายเงินให้กับพนักงาน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการไม่ถูกต้อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้นเริ่มมาทีหลัง ส่วนทางโรงแรมได้ให้แนวคิดกับทางพนักงาน หรืออย่างเช่นตนเป็นผู้จัดการ ก็ให้ไปแจ้งกับทางลูกน้องว่า ปัญหาตอนนี้มีผลกระทบต่างๆ นั่นนี่ และยังมีการถ่ายโอนบัญชีโรงแรม รายได้ต่างๆ เข้ากับอีกบัญชี เพราะบัญชีเดิมถูกทางเจ้าหน้าที่อายัดไปแล้ว โดยอ้างว่าจะนำเงินที่เข้าในบัญชีใหม่มาให้กับทางพนักงาน แต่ก็ไม่ได้มีการประกาศให้กับทางพนักงานรับทราบแต่อย่างใด แต่จะใช้ให้ทางผู้จัดการห้องหรือแผนกต่างๆ ไปแจ้งกับพนักงานเอง ซึ่งในตรงนี้ถือเป็นการหลอกใช้พนักงานหรือผู้จัดการแต่ละห้อง แต่ละแผนกต่างๆ ให้เหมือนกับไปหลอกลูกน้องตัวเอง โดยที่เห็นชัดเจนคือเงินที่ไม่ได้จ่าย เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคม และในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ก็จ่ายทีละ 50 เปอร์เซ็นต์ , 25 เปอร์เซ็นต์ , 10 เปอร์เซ็นต์ และหลังจากนั้นก็ไม่จ่ายเลย เราจึงจำเป็นต้องมาเรียกร้องในเรื่องของเงินที่จะต้องจ่ายให้ ภายหลังจากที่ได้มีการเรียกร้องศาลแรงงานบังคับจ่ายให้เรียบร้อยไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ในครั้งนี้ก็เริ่มเกิดขึ้นอีก โดยการเลื่อนเปิดกิจการไป 2 เดือน ซึ่งโดยข้อเท็จจริงทางโรงแรมจะต้องเริ่มเปิดในเดือนตุลาคมนี้ และเงินเดือนสัญญาจ้างว่าจะจ่ายที่มีสัญญาว่าจะจ่ายให้ 75 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่จ่ายให้แม้แต่บาทเดียว โดยขณะนี้ก็เลือนมาอีก 2 เดือน นับตั้งแต่เดือนนี้คือ ตุลาคม ไปถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเชื่อได้ว่าเงินส่วนนี้ก็น่าจะไม่จ่ายเช่นเดิม

ดังนั้นในส่วนของตนคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาในกลไกของฝ่ายโรงแรมมากกว่า ในการยักยอกเงิน ถ่ายโอนเงิน รวมทั้งเงินของพนักงานร่วม 300 คน ซึ่งในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มาร่วมประมาณ 100 กว่าคน ส่วนที่เหลือเนื่องจากทางโรงแรมมีการประกาศเลื่อนการปิดกิจการออกไปจึงกลับภูมิลำเนาเพื่อไปหางานทำ เนื่องจากไม่มีรายได้มาหล่อเลี้ยงตัวเอง โดยหากคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งหมดคาดว่าเยอะมาก โดยเพียงแค่ในส่วนของตนคนเดียวนั้นก็มีค่าเสียหายอยู่ประมาณ 3 ล้านบาท และประมาณความเสียหายของกลุ่มพนักงานที่มาชุมนุมในวันนี้ก็ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ร่วมในส่วนของพนักงานที่เหลือ ขณะเดียวกันในเรื่องของสถานะของโรงแรมตอนนี้ก็จะเห็นได้ว่ามีสภาพเสื่อมโทรมไปมาก และมีการปิดทำการโดยการอ้างว่าเกิดจากผลกระทบโควิด ตั้งแต่ วันที่ 24 ของเดือนมีนาคม จนถึงปัจจุบัน แต่สถานะพนักงานยังคงให้เป็นสถานะของพนักงานอยู่ ก็คือยังไม่เลิกจ้างแต่ว่าไม่จ่ายเงินเดือน และใบอนุญาตก็ขาดไป 2 เดือน ตั้งแต่ 8 ก.ค.63

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จากการที่ทางพนักงานยังคงสถานะเป็นพนักงานของโรงแรม และประกันสังคมก็ยังอยู่ในสถานะของโรงแรม ดังนั้นเมื่อไปสมัครงานที่อื่นก็ไม่สามารถบรรจุได้ รวมไปถึงการเรียกร้องค่าชดเชย และค่าอื่นๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ เนื่องจากสถานะนั้นยังเป็นพนักงาน โดยที่ทางโรงแรมได้ประกาศไว้ว่าจะจ่ายเงินเดือนให้ โดยการเลื่อนเปิดกิจการออกไป แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยจ่ายให้ แต่ยังคงสถานะภาพพนักงาน ทำให้พนักงานในขณะนี้เหมือนถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่ให้ไปไหน และล่าสุดที่ได้มีการเลื่อนการเปิดกิจการออกไป ซึ่งจริงๆ แล้วจะต้องเปิดในเดือนนี้ ก็ต้องเลื่อนออกไปเปิดในเดือนธันวาคม ทำให้พนักงานกว่า 300 คน ก็ต้องถูกลอยแพ และยังมีพนักงานบางส่วนที่ลาออกไปแล้ว เนื่องจากทนรอไม่ไหว และทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชย เนื่องจากการกระทำในลักษณะนี้เปรียบเสมือนการบีบบังคับพนักงาน โดยเลี่ยงในการจะจ่ายค่าชดเชย ซึ่งก็มีพนักงานที่ตัดสินใจลาออกไปโดยที่ยังไม่ได้ค่าชดเชยประมาณมากกว่า 10 ราย

ด้าน ..กุลนา อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกขายของที่ระลึกของโรงแรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ที่ทางพนักงานโรงแรมได้มีการรวมตัวมาร้องเรียนกับทางผู้ว่าราชการ ให้มีการสั่งปิดโรงแรมดังกล่าวเพราะว่าใบอนุญาตของโรงแรมขาดมาแล้วถึง 2 เดือน ซึ่งตามกฎหมายหากขาดมาแล้ว 2 เดือนจะต้องทำใบอนุญาตในส่วนดังกล่าวใหม่ หรือคล้ายกับการทำเรื่องโรงแรมใหม่ทั้งหมด แต่ขณะเดียวกันในส่วนของสภาพโรงแรมขณะนี้ก็ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูได้ หรือหากจะฟื้นฟูจริงๆ ก็ต้องใช้เงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันทางพนักงานก็ต่างพากันไปทำงานอื่นๆ ไปก่อนแต่ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสภาพพนักงานของโรงแรมไว้ เนื่องจากค่าชดเชยของพนักงานก็ค่อนข้างสูง อย่างเช่นของตนเพียงคนเดียวก็อยู่ที่ประมาณเกือบล้านบาท เนื่องจากทำงานที่โรงแรมแห่งนี้มานานพอสมควร จึงทำให้ตนต้องคงสถานะภาพไว้

ขณะที่ในเวลาต่อมาทางด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นผู้ออกมารับเรื่องดังกล่าวด้วยตนเอง พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยกันกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยหลังจากการรับเรื่องได้เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นจะได้มีการนำเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นไปตรวจสอบเพื่อที่จะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับบรรดาพนักงาน ตามความต้องการของพนักงานได้หรือไม่ โดยในส่วนของกระบวนการทางด้านแรงงานนั้นก็ได้มีการดำเนินการจนถึงขั้นศาลแล้ว และทางสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานก็ได้เข้าไปกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามที่ศาลมีคำสั่งไว้ ส่วนในประเด็นวันนี้นั้นเป็นเรื่องที่ทางโรงแรมไม่ได้ต่อใบอนุญาต หรือร้องขอต่อใบอนุญาต ทำให้ทางพนักงานมีความรู้สึกเหมือนถูกเพิกเฉย โดยหากสมมุติว่ามีการปิดเป็นกิจจะลักษณะทางพนักงานก็จะได้สิทธิ์ตามกฎหมายแรงงาน โดยในส่วนนี้ทางตนก็จะได้นำไปตรวจสอบในข้อกฎหมายอีกครั้งว่าสามารถดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่สำคัญคือจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายโดยจะใช้ระยะเวลามากน้อยเพียงใดนั้นยังไม่สามารถตอบได้เนื่องจากจะต้องอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาอีกครั้ง