ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลุยตรวจรื้อถอนอาคารที่พักรีสอร์ตบนม่อนแจ่ม พบรุกล้ำ 29 ราย สิ่งปลูกสร้างอาคาร 149 หลัง เร่งสั่งการทยอยรื้อถอน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ก.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบการรื้อถอน รีสอร์ทที่พัก ในพื้นที่ดอยม่อนแจ่ม หมู่ 11 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หลังจากกรมป่าไม้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่มีการทำผิดกฏหมายไปก่อนหน้า
สำหรับข้อมูลจากการตรวจสอบของกรมป่าไม้พบว่า มีผู้ประกอบการที่มีความผิดฐานรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน มีจำนวนทั้งสิ้น 29 ราย สิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่พักทั้งหมด 149 หลัง และทางกรมป่าไม้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีผู้ประกอบการทั้งหมดไปแล้ว ในความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้สงวนแห่งชาติฯ และพ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งให้ทยอยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด รวมถึงให้นำป้ายประกาศของกรมป่าไม้ เข้าไปติดไว้เพื่อเตรียมทำการรื้อถอน
สำหรับการรื้อถอนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ได้นำทีมงานช่างเข้ารื้อถอนผู้ประกอบการ 1 ราย มีสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่พักทั้งหมด 8 หลัง โดยจากการลงพื้นที่สำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าว พึ่งสร้างเสร็จได้ไม่นานกำลังจะเตรียมเปิดให้บริการ และยังไม่ได้ตั้งชื่อรีสอร์ท แต่ได้มีการถูกสั่งรื้อถอนก่อน
รื้อถอนอาคารที่พักรีสอร์ตบนม่อนแจ่ม พบรุกล้ำ 29 ราย สิ่งปลูกสร้างอาคาร 149 หลัง เร่งสั่งการทยอยรื้อถอน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ก.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบการรื้อถอน รีสอร์ทที่พัก ในพื้นที่ดอยม่อนแจ่ม หมู่ 11 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หลังจากกรมป่าไม้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่มีการทำผิดกฏหมายไปก่อนหน้า
สำหรับข้อมูลจากการตรวจสอบของกรมป่าไม้พบว่า มีผู้ประกอบการที่มีความผิดฐานรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน มีจำนวนทั้งสิ้น 29 ราย สิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่พักทั้งหมด 149 หลัง และทางกรมป่าไม้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีผู้ประกอบการทั้งหมดไปแล้ว ในความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้สงวนแห่งชาติฯ และพ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งให้ทยอยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด รวมถึงให้นำป้ายประกาศของกรมป่าไม้ เข้าไปติดไว้เพื่อเตรียมทำการรื้อถอน
สำหรับการรื้อถอนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ได้นำทีมงานช่างเข้ารื้อถอนผู้ประกอบการ 1 ราย มีสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่พักทั้งหมด 8 หลัง โดยจากการลงพื้นที่สำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าว พึ่งสร้างเสร็จได้ไม่นานกำลังจะเตรียมเปิดให้บริการ และยังไม่ได้ตั้งชื่อรีสอร์ท แต่ได้มีการถูกสั่งรื้อถอนก่อน
