สธ. เผยผลสำรวจ พบประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันตนเองจากโควิด-19 อยู่ในระดับที่ดี

942

สธ. เผยผลสำรวจ พบประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันตนเองจากโควิด-19 อยู่ในระดับที่ดี

วันที่ 11 มิถุนายน 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ดร.ภญ.วลัยพร พัชรนฤมล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ แถลงข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้คณะทำงานประมวลสถานการณ์และวิชาการ ร่วมกับองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประชาชนหลังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2563 ทำการสำรวจทุกสัปดาห์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 โดยใช้ 3 วิธีคือ อสม.เคาะประตูสอบถามถึงบ้าน สอบถามทางโทรศัพท์โดยนักศึกษาแพทย์ รามาธิบดี และทางออนไลน์ รวมกว่า 2 แสนราย

ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันตนเองในระดับที่ดี หลังรัฐบาลมีการผ่อนปรนระดับพฤติกรรมการป้องกันตนเองลดลง ผลสำรวจของสัปดาห์ล่าสุดระหว่างวันที่ 29 พ.ค.- 4 มิ.ย. 2563 พบว่า ภาพรวมพฤติกรรมป้องกันตนเองอยู่ที่ร้อยละ 75.7 โดยการใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลาเป็นพฤติกรรมที่ประชาชนปฏิบัติมากที่สุด ร้อยละ 91.5 รองลงมา ได้แก่ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 83.9, กินอาหารร้อนและใช้ช้อนกลางของตนเอง ร้อยละ 83.7, ระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่นในระยะน้อยกว่า 2 เมตร ร้อยละ 66 และระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก ร้อยละ 58.8

ส่วนการเดินทางออกนอกจังหวัด พบว่าแนวโน้มการเดินทางออกนอกจังหวัดสูงขึ้นเล็กน้อย เหตุผลหลักคือไปทำงานหรือมีธุระจำเป็น สำหรับสถานที่ที่ไปบ่อยคือ ตลาดสด ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ทำงาน ร้านอาหารแบบนั่งทาน  ศาสนสถาน และพบว่ามาตรการป้องกันโรคของแต่ละสถานที่ยังทำได้ไม่เต็มที่ เช่นการสวมหน้ากากของพนักงาน/ผู้รับบริการ การจัดจุดล้างมือ การเว้นระยะห่าง สำหรับการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ พบว่ามีการจัดมาตรการป้องกันโรคค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ ความคิดเห็นต่อการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เช่น การเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 51) คิดว่าควรเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศในเดือนตุลาคมขึ้นไป รองลงมา ได้แก่ กรกฎาคม (ร้อยละ 20.8) โดยร้อยละ 99 คิดว่าควรคัดกรองและกักกันตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ 14 วัน

จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ประชาชนยังปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองได้ดีพอควร แต่ขอให้ปฏิบัติเพิ่มขึ้นทั้งการสวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง รวมทั้งช่วยกันปรับปรุงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคในสถานที่ต่าง ๆ และขอเชิญร่วมตอบแบบสอบถามและติดตามผลการสำรวจฯ ที่ www.อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ.com

ด้านนายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค เปิดเผยผลการสำรวจทัศนคติความเห็นของประชาชน โดยกรมควบคุมโรค หรือดีดีซีโพล (DDC Poll) โดยสำรวจทั้งออฟไลน์ จำนวน 4 ครั้ง และออนไลน์จำนวน 8 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2563 สรุปได้ว่า ประชาชนมีแนวโน้มในการสวมหน้ากากลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสโรค ได้แก่ เพศชายอายุ 15-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มจะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเน้นการกระตุ้นรณรงค์ให้สวมหน้ากากเพิ่มขึ้น ส่วนคำถามว่าจะเลิกสวมหน้ากากเมื่อไหร่ ร้อยละ 53.5 ระบุว่าจะสวมหน้ากากต่อเนื่อง ส่วนร้อยละ 44.4 จะเลิกสวมเมื่อไม่มีรายงานผู้ป่วยในประเทศ, ร้อยละ 13.6 เมื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และร้อยละ 10.5 เมื่อไม่มีอาการป่วย