เชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเป็นรายแรกของจังหวัด ด้านผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้นไม่พบเพิ่มติดต่อกันมา 6 วันแล้ว พร้อมทั้งเน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันที่ 14 เมษายน 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แต่พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย หากจังหวัดเชียงใหม่สามารถรักษาสถานะของการไม่พบผู้ติดเชื้อได้ถึง 14 วัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จะได้พิจารณาผ่อนคลายข้อกำหนดหรือมาตรการต่างๆ ลงบ้าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ พร้อมทั้งขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ และพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างดี จนทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดเชียงใหม่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ด้าน นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ชี้แจงถึงรายละเอียดของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ว่า เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 65 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา และพบเชื้อในวันที่ 18 มีนาคม จึงได้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยผู้เสียชีวิตมีประวัติโรคประจำตัวอยู่แล้ว ทั้งความดันโลหิต และโรคไตระยะสุดท้าย ในช่วงแรกผู้เสียชีวิตมีภาวะปอดบวมและได้รับยาต้านไวรัสทุกชนิดที่มีอยู่จนครบ แต่ระหว่างรักษาตัวกลับมีอาการไตวายหนักขึ้น จึงจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อทำการฟอกไตให้ หลังจากนั้นในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วานนี้ ส่วนการจัดการศพของผู้เสียชีวิตจะต้องจัดการตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะได้ห่อในถุงบรรจุอย่างดี เพื่อป้องกันการปนเปื้อนไปสู่ชุมชน ก่อนที่จะนำไปทำพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
นอกจากนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้แนะนำให้ประชาชนใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสามารถสรงน้ำพระพุทธรูปในบ้าน และสามารถรดน้ำ กราบไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ที่อยู่บ้านเดียวกันได้ แต่ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส รวมถึงให้ดูแลผู้สูงอายุในบ้านให้ดีเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อได้ง่าย จากกรณีของผู้เสียชีวิต 1 รายของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ติดเชื้อจากคนในครอบครัวที่นั่งรถคันเดียวกันไปโรงพยาบาล ระยะห่างทางสังคมจึงเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักเป็นอย่างยิ่ง และสำหรับครอบครัวที่อยู่ไกลกันให้อาศัยเทคโนโลยีในการแสดงความรักในช่วงเทศกาลสงกรานต์แทน
Facebook Comments