(มีคลิป Video)หนุ่มเชียงใหม่ เข้าร้องตำรวจภาค 5 หลังโพสต์แฉถูกตำรวจอุ้มเมียและลูกชายเข้าป่า รีดไถเงิน 3 แสนบาท ด้านผู้การเชียงใหม่ยันดำเนินการตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มีนาคม 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายฐานะพล อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารในพื้นที่อำเภอสันทราย และนางสาวพิมพ์ชนก อายุ 22 ปี ซึ่งถือบัตรสีชมพูเป็นบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย พร้อมบุตรชาย ด.ช.อีเกิ้ล อายุ 1 ปี 11 เดือน ได้เข้าติดตามเรื่องที่ยื่นตรวจสอบกรณีถูกตำรวจแม่อายอุ้มรีดเงิน 3 แสนบาทโดยสอบถามความคืบหน้าพร้อมของการคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของคนในครอบครัว เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ได้ส่งเรื่องต่อไปยังทางกองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยระหว่างที่สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหานายฐานะพล โดยเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ โทรมาเพื่อเป็นตัวแทนของตำรวจคู่กรณีขอเจรจาไกล่เกลี่ยโดยสอบถามความต้องการยินดีเสนอเงินเพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบไป และขอให้ผู้เสียหายถอนคำร้องเรียนทั้งหมด ซึ่งโทรมาสอบถามหลายครั้ง ต่อหน้าสื่อมวลชนที่มาเกาะติดข่าวดังกล่าวอย่างไม่สนใจใคร
พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 ได้เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องเรียน และสั่งการให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวมถึงสั่งการให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ทำการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ความเป็นธรรมต่อทุกอย่าง ใครผิดก็ไม่เลี้ยงไว้ รวมถึงให้ความดูแลความปลอดภัยต่อผู้ร้องเรียนไม่ให้เกิดปัญหาข่มขู่คุกคาม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากที่ผู้เสียหายได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ได้ส่งเรื่องต่อไปยังทางกองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่แล้ว และเมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้มาสอบถามรับเรื่องดังกล่าวกับผู้เสียหายเองยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมาไม่มีละเว้น
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับการร้องเรียนถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยจากข้อมูลที่ร้องเรียนมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนึง ปฏิบัติหน้าที่แล้วมีลักษณะของการทำผิดกฎหมายมาด้วยเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน เบื้องต้นขอคุยกับผู้เสียหายอีกนิดนึง ขอเรียนทราบว่าแนวทางของเราเป็นไปตามแนวทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะตามแนวทางของท่าน ผบ.ตร. และท่าน ผบช.ภ.5 ได้วางเอาไว้ ถ้าพบว่ากระทำผิดไม่ว่าจะผิดวินัยหรือผิดกฎหมาย เราดำเนินการตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่กำหนด ไม่มีการช่วยเหลืออยู่แล้ว เพราะเราได้สั่งการกำชับทุกครั้งที่มีการประชุม การประชุมมอบนโยบายของทาง ตร.ก็ได้ดีภาค 5 ก็ดี หรือทางตำรวจภูธรเชียงใหม่ หรือทางโรงพักก็ดี เรื่องนี้เราได้กำชับกันโดยตลอด ถ้ามีพยานหลักฐานข้อมูลที่แน่ชัดว่าได้กระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียนเราดำเนินการเด็ดขาด
เบื้องต้นที่รายงานมาทราบว่ามีการตั้งด่านจริง แต่การเรียกรับนั้นยังแบ่งรับแบ่งสู้ โดยมีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องซึ่งเป็นชาวบ้าน ถ้ามีตำรวจเกี่ยวข้องจริงถือเป็นการฝ่าฝืนที่ผู้บังคับบัญชากำชับไว้ในทุกครั้ง หากพบจริงเรามีมาตรการในการดำเนินการและดำเนินคดีด้วย ถ้าผิดจริงก็เป็นโทษปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การเรียกรับผลประโยชน์ ถ้าปรากฏข้อมูลมีมูลเหตุน่าเชื่อ ประกอบกับผู้ร้องเรียนเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งทางตำรวจมีการดำเนินการนำตัวคู่กรณีมาอยู่ในจุดที่ไม่เผชิญหน้า
