เลขาฯ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ติดตามหาทางแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่

1869

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

     เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 นายธเนศพล ธนบุญยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะกับกลุ่มผู้ใช้น้ำ และติดตามการดำเนินงานของโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วพร้อมระบบส่งน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับใช้ในการดูแลพืชผลทางการเกษตร และอุปโภคบริโภค เพื่อรับทราบปัญหาและหาทางบริหารจัดการน้ำให้กับพี่น้องประชาชน

blank

     นายธเนศพล ธนบุญยวัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในปีนี้ค่อนข้างวิกฤต ซึ่ง นายวราวุฒิ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำอย่างไรที่จะสามารถใช้น้ำจากแหล่งน้ำที่มีอยู่ ไปช่วยลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด จากการสำรวจอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว พบว่ายังมีปริมาณน้ำอยู่จำนวนมาก มีการจัดสรรการใช้น้ำอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือกันของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยมีประชาชนที่เป็นผู้ใช้น้ำเป็นฝ่ายบริหารจัดการน้ำด้วยตนเอง นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี

     อย่างไรก็ตาม หากมองถึงประโยชน์ในการใช้น้ำในอ่างห้วยแก้ว ยังไม่เต็มที่เท่าที่ควร เนื่องจากในแต่ละปีจะมีน้ำจากธรรมชาติไหลผ่านอ่างเก็บน้ำกว่า 5 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สามารถกักเก็บน้ำต้นทุนได้เพียง 2 ล้านลูกบาศก์เมตร สูญเปล่าไปกว่า 3 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงจำเป็นต้องหาทางกักเก็บน้ำที่สูญเสียไป นำกลับมาใช้ให้ได้มากที่สุด โดยอาจใช้วิธีการเพิ่มความสูงของแนวขอบอ่างและบริเวณสปิลเวย์ ให้สูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 1 เมตร หรืออาจใช้วิธีการขุดลอกดินภายในอ่างให้มีความลึกมากขึ้น เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าเดิม ซึ่งจะต้องดูหลักทางเทคนิคอีกครั้งว่าจะต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าในตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย มีทั้งหมด 12 หมู่บ้าน แต่มีหมู่บ้านที่ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วได้เพียง 4 หมู่บ้าน ส่วนอีก 8 หมู่บ้าน ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากระบบส่งน้ำยังไปไม่ถึง ซึ่งชาวบ้านได้ร้องขอให้มีการเพิ่มท่อส่งน้ำให้กับหมู่บ้านที่เหลือ เพื่อให้สามารถใช้น้ำได้อย่างเสมอภาค ในส่วนของการดำเนินการทั้ง 2 ภารกิจ อาจต้องใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ พร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

blank blank blank blank