(มีคลิป Video)หนุ่มโพสต์เตือนภัยพ่อค้าแม่ค้า! หลังเจอหญิงสาวขับรถเก๋งมาขโมยรองเท้าคาร้าน ย่านมีโชคพลาซ่า

8717

หนุ่มโพสต์เตือนภัย! สาวขับรถเก๋งมาขโมยรองเท้าคาร้าน ย่านมีโชคพลาซ่า

    วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอพร้อมข้อความ หลังโดนหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามาขโมยรองเท้าภายในร้านย่านมีโชคพลาซ่า โดยระบุว่า “เตือนภัย… ขับรถเก๋งมาขโมยรองเท้า‼️‼️‼️ วันนี้เช้าเจอขโมยใส่หน้ากาก มาขโมยรองเท้าในร้าน สาขา 3 มีโชคพลาซ่า รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆครับช่วงนี้แม้กระทั่งรองเท้าคู่ละไม่กี่บาท ยังขโมยดื้อๆเฉยๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซ้ำฐานะดีด้วยขับรถเก๋งมาขโมย โอ้ยุคสมัยนี้มาหลายคราบหลายอย่าง อยากได้บอกดีๆก็ได้ครับผมใจดีอยู่ละครับ ขอให้ทุกคนทุกท่านระวังตัวกันด้วยนะครับ ลักเล็กขโมยน้อย แบบนี้ ส่อถึงสันดานนิสัยครับ ผมมีภาพทุกอย่าง ยี่ห้อรถ ป้ายทะเบียน ถ้าพี่สาวเห็นโพสต์นี้กรุณาติดต่อกลับหาผมนะครับ ก่อนที่ผมจะเอาเรื่องถึงที่สุดผมใจดีอยู่นะครับ ถ้าดีและมีประโยชน์แชร์ไปครับ”

นาทีที่1.00น เป็นต้นไป ยังเนียนถามแบบอื่นอยู่ครับ

โพสต์โดย Tanthai Tan เมื่อ วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020

    ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์คนดังกล่าวซึ่งเป็นเจ้าของร้านเพื่อสอบถามถึงรายละเอียดเพิ่มเติม โดยทางเจ้าของร้านได้เล่ากับผู้สื่อข่าวว่าหญิงสาวคนดังกล่าว เข้ามาในร้าน ทำทีเดินเลือกดูสินค้า ก่อนจะเดินมาหยิบรองเท้าคู่หนึ่งดูและหยิบใส่กระเป๋าไปอย่างแนบเนียน ก่อนที่จะเดินไปดูสินค้าต่อ และทำทีเรียกพนักงานไปคุยสอบถามเรื่องสินค้าก่อนจะเดินออกจากร้านไป โดยทางเจ้าของร้านได้ตามจากกล้องวงจรปิดทั้งจากในร้าน และทางโครงการโดยเห็นว่าหลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้เดินออกจากร้าน ก็ได้รีบเดินด้วยความรวดเร็วกลับไปขึ้นรถเก๋งที่จอดไว้ก่อนขับออกไป

     ทั้งนี้ทางเจ้าของร้านได้เข้าแจ้งความไว้แล้วกับ สภ.แม่ปิง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบข้อมูลจากป้ายะเบียนรถจนพบว่าเจ้าของรถเป็นหญิงสาว ชาว จ.แพร่ แต่เมื่อลองโทรไปหาตามเบอร์ที่มีข้อมูลอยู่ แต่ก็ไม่มีผู้รับสายแต่อย่างใด ในขณะที่เจ้าของร้านได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว CM108 ว่าจริงๆแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวได้ขโมยรองเท้าไปจำนวน 1 คู่ ในราคา 599 บาท ซึ่งก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ตนไม่อยากปล่อยไป เพราะไม่อยากให้ได้ใจและก่อเหตุอีก และเกรงว่าร้านอื่นๆก็จะโดนไปด้วย ตนเองยินดีไม่เอาเรื่องถ้าหญิงคนดังกล่าวติดต่อเข้ามาแสดงตัวและนำสินค้ามาคืน แต่ถ้ายังหายเงียบไปแบบนี้ก็คงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก