องค์การอนามัยโลก ประกาศภาวะฉุกเฉิน รับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

4640

องค์การอนามัยโลก(WHO) ประกาศภาวะฉุกเฉิน รับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 213 ราย

      นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ให้สัมภาษณ์ว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public health Emergency of international Concern) เมื่อคืนนี้ (30 มกราคม 2563) เนื่องจากมีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น และพบผู้ป่วยในหลายพื้นที่ ตลอดจนมีรายงานการติดต่อระหว่างคนสู่คนภายในประเทศ จึงเป็นเหตุผลสำคัญให้ทางองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก ทั้งนี้ประเทศไทย นำโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วย งานที่เกี่ยวข้องพิจารณายกระดับการทำงานให้สอดคล้องกับประกาศขององค์การอนามัยโลก

     โดยบ่ายวันนี้ เวลา 13.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ตามคำสั่งของท่านนายกรัฐมนตรีซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ทั้งนี้จะได้มีการประชุมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับมาตรการต่างๆ อาทิ เช่น มาตรการทางกฎหมาย มาตรการด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และมาตรการในด้านการสื่อสารความเสี่ยง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลก

     นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ (30 มกราคม 2563) ยังได้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการโรคติดต่อภายใต้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งได้มีการหารือในประเด็นการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ให้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตลอดจนการพิจารณาเรื่องการประกาศพื้นที่หรือเขตติดโรค

     สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2563 เวลา 11.45 น. พบผู้ป่วยทั่วโลกแล้วกว่า 9,776 ราย เสียชีวิต 213 รายด้วยกัน

     คำแนะนำสำหรับประชาชน สำหรับประชาชนไทย ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศคำเตือนระดับ 3 ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรค ให้ยึดหลักการป้องกันตนเองและการดูแลสุขภาพ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” และสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในที่ชุมนุมชน อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางไปให้ที่ที่มีคนหนาแน่น